ทำไมร้านขายน้ำจึงควรใช้ผงชงเครื่องดื่ม? ทางเลือกที่ช่วยเพิ่มกำไรและความสะดวกให้ร้านคุณ

ทำไมร้านขายน้ำจึงควรใช้ผงชงเครื่องดื่ม? ทางเลือกที่ช่วยเพิ่มกำไรและความสะดวกให้ร้านคุณ

ตลาดไทย

เดี๋ยวนี้ใคร ๆ ก็อยากเปิดร้านขายน้ำ เพราะดูเหมือนต้นทุนต่ำ ไม่ยุ่งยาก และขายได้ทุกที่ตั้งแต่ตลาดนัด หน้าโรงเรียน ไปจนถึง Food Court หรือแฟรนไชส์
แต่พอเปิดจริงกลับเจอปัญหาจุกจิกเต็มไปหมด ทั้งเรื่องวัตถุดิบ การชงที่ไม่คงที่ หรือแม้แต่การสต๊อกของที่ดูเหมือนเล็กแต่กินพื้นที่ร้านมากกว่าที่คิด

ถ้าใครกำลังเริ่มต้นเปิดร้าน หรือลองขายมาได้พักหนึ่งแล้ว เราอยากแนะนำให้ลองใช้ “ผงชงเครื่องดื่ม” อีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้ร้านคุณจัดการง่ายขึ้นแบบที่คุณคาดไม่ถึง

ผงชงเครื่องดื่มคืออะไร?

พูดง่าย ๆ มันคือ “ผงที่เมื่อนำไปผสมน้ำจะได้เป็นเครื่องดื่ม” ที่เขาปรุงมาให้เรียบร้อยแล้ว เช่น:

  • ผงโกโก้
  • ผงชาไทย
  • ผงมะนาว ผงองุ่น ผงสตรอว์เบอร์รี
  • ผงเก๊กฮวย กระเจี๊ยบ
  • หรือผงกลิ่นผลไม้แบบแฟนซี เช่น กีวี่ บลูฮาวาย

แค่เอาผงมาชงกับน้ำร้อนหรือน้ำเย็นตามสัดส่วน → คนให้เข้ากัน → เทลงแก้ว → เสิร์ฟ
จบในไม่กี่วินาที ไม่ต้องต้ม ไม่ต้องปั่น ไม่ต้องล้างผลไม้ หรือคั้นน้ำให้เสียเวลา

✅ ชงไวทันใจลูกค้า ไม่ต้องให้รอ

ร้านที่มีลูกค้าแน่น ๆ หรือขายช่วงเวลาเร่งด่วน อย่างหน้าโรงเรียน ช่วงเที่ยง หรือเลิกงาน ถ้าใช้วิธีชงสดทุกแก้วแบบเดิมๆ มีหวังคิวสะสมไปถึงหน้าตลาด

ผงชงจะช่วยลดขั้นตอนทั้งหมดลงเหลือแค่ “ตัก – ชง – เสิร์ฟ”
ชงเครื่องดื่ม 1 แก้วใช้เวลาไม่ถึง 30 วินาที

💡 เหมาะกับ:

  • ร้านที่มีลูกค้าเร่งรีบ
  • ร้านที่มีพนักงานคนเดียว
  • ร้านแฟรนไชส์ที่เน้นความเร็วเหมือนกันทุกสาขา

ยิ่งเร็ว → ยิ่งขายได้เยอะ → ยอดต่อวันก็ยิ่งดี

ผงน้ำผลไม้หลากรสชาติ Smoosh

✅ รสชาติเป๊ะเหมือนเดิมทุกแก้ว ไม่ว่าใครชง

นี่คืออีกจุดแข็งของผงชงเลย เพราะรสชาติถูกออกแบบมาให้ “ตวงเท่าเดิม = รสเท่าเดิม”
ไม่ต้องกะหวานหรือเติมน้ำตาลเอง ไม่ต้องมาชิมบ่อย ๆ ไม่ต้องพึ่ง “พนักงานประจำ” เพื่อให้รสชาติคงที่

หลายร้านที่มีพนักงานหลายคน หรือเจ้าของไม่ได้อยู่ร้านตลอด จะเจอปัญหานี้บ่อยว่า “วันนี้ชงอ่อนไป” หรือ “ลูกค้าบอกว่าเมื่อวานอร่อยกว่า”
ผงชงช่วยลดความเสี่ยงตรงนี้ได้เลย

ต้นทุนต่อแก้วถูก แถมคำนวณง่าย

ถุงผงชงราคาเริ่มต้น ประมาณ 90 บาทต่อถุง
หากเป็นแก้ว 22 ออนซ์ใช้ชงได้ประมาณ 20 (ขึ้นกับปริมาณที่ชงต่อแก้ว)
เท่ากับว่าต้นทุน “ผงต่อแก้ว” อยู่แค่ 5 บาทเท่านั้น

เทียบกับการใช้วัตถุดิบสด เช่น ผลไม้แท้ ใบชา หรือไซรัปหลายตัวรวมกัน
ต้นทุนต่อแก้วอาจพุ่งไปถึง 10 – 15 บาท แล้วกำไรก็หายไปพอสมควร

💡 ยิ่งถ้าเอาไปขายราคาประมาณ 20 บาท

กำไรต่อแก้วอยู่ราว ๆ 13 บาท / หากขาย 50 แก้วต่อวัน กำไรคร่าว ๆ วันละ 600+ บาท

เก็บได้นาน ไม่ต้องกลัวของเสีย

ผงชงเก็บได้ประมาณ 1 ปี (ถ้ายังไม่เปิดถุง)
เปิดใช้แล้วก็เก็บในถุงซิปล็อกหรือภาชนะทึบแสงไว้ในอุณหภูมิห้องได้เลย

ไม่เหมือนกับผลไม้สดที่เสียง่าย, ใบชา/กาแฟที่ชื้นแล้วเสียรส, หรือน้ำหวานที่ต้องเก็บในตู้เย็นตลอดเวลา
ผงชงช่วยให้การจัดการสต๊อกสะดวกขึ้นเยอะ ไม่ต้องกังวลของเน่า เสียดายของ

แตกไลน์เมนูได้เยอะโดยไม่ต้องเพิ่มวัตถุดิบ

แค่ผงรสเดียวก็เอาไปต่อยอดได้อีกหลายเมนู เช่น:

ผงชาไทย

  • ชาไทยปั่น
  • ชาไทยครีมชีส
  • ชาไทยใส่ไข่มุก

ผงองุ่น

  • องุ่นโซดา
  • องุ่นเยลลี่ผลไม้

คุณไม่ต้องซื้อของเพิ่มหลายรายการ แต่สามารถขยายเมนูให้ลูกค้าเลือกได้มากขึ้น
ช่วยเพิ่มโอกาสขายของเพิ่มโดยไม่เปลืองสต๊อกเลย

สรุป: ผงชง ตอบโจทย์ร้านขายน้ำมากกว่า

ผงชงไม่ใช่ของใหม่ แต่เป็นของที่หลายร้านใช้เพราะมัน ง่าย คุ้ม และควบคุมได้
ถ้าคุณเป็นร้านที่เน้นชงเร็ว ขายง่าย ต้นทุนไม่พอกพูน ผงชงคือคำตอบ

“มันไม่ใช่แค่ประหยัด แต่คือระบบที่ช่วยให้ร้านคุณอยู่ได้ยาว ๆ โดยไม่ต้องเหนื่อยเกินจำเป็น”

ดังนั้น หากคุณมองหาผงชงที่ คุ้มค่า คุ้มราคา ประหยัดพื้นที่ และสามารถปรับรสชาติได้ตามใจ ลองเลือก ผงชงน้ำผลไม้ Smoosh ที่มีหลากหลายรสชาติให้คุณได้ลิ้มลอง ที่คุณสามารถสั่งซื้อได้ผ่านทาง LineFacebook หรือ Shopee จากนั้นก็รอได้รับผงชงถึงบ้านได้เลย!