สรรพคุณลับของลิ้นจี่ ที่คุณอาจไม่เคยรู้

สรรพคุณลับของลิ้นจี่ ที่คุณอาจไม่เคยรู้

พวงลิ้นจี่

ลิ้นจี่ เป็นผลไม้ที่หลายคนคุ้นเคยและชื่นชอบ แต่รู้หรือไม่ว่าลิ้นจี่มีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพของเรา? วันนี้เราจะมาดูว่าลิ้นจี่มีความเป็นมาอย่างไร ประโยชน์ของลิ้นจี่กันว่ามีอะไรบ้าง และทำไมมันถึงดีต่อร่างกายเรากัน!

ประวัติและต้นกำเนิดของ ลิ้นจี่

ลิ้นจี่ ( ภาษาอังกฤษ : Lychee, ภาษาจีน : 荔枝 (lì zhī) ) เป็นผลไม้ที่มีประวัติยาวนานและมีต้นกำเนิดจากพื้นที่ทางใต้ของประเทศจีน โดยมีบันทึกไว้นานถึง 2,000 ปีก่อนคริสตกาล ลิ้นจี่เริ่มได้รับความนิยมในจีนตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น (206 ปีก่อนคริสตกาล – ค.ศ. 220) โดยใช้เป็นทั้งอาหารและเป็นของขวัญให้กับบุคคลสำคัญในราชสำนัก แต่เมื่อเวลาผ่านไปชาวบ้านทั่วไปก็สามารถเข้าถึงลิ้นจี่ได้มากขึ้น จนกลายเป็นผลไม้ที่มีความสำคัญในวัฒนธรรมและประเพณีจีน โดยเฉพาะในเทศกาลต่างๆ เช่น เทศกาลสารทจีน ซึ่งใช้ลิ้นจี่เป็นส่วนหนึ่งของอาหารเพื่อความเป็นสิริมงคล นอกจากนั้นลิ้นจี่ยังเป็นของโปรดของ หยางกุ้ยเฟย์ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 4 ยอดหญิงงามของประวัติศาสตร์จีนอีกด้วย

กระจายสู่ประเทศอื่น

ลิ้นจี่เริ่มแพร่กระจายออกนอกประเทศจีนในช่วงศตวรรษที่ 18 และ 19 โดยมีการนำเข้าไปยังภูมิภาคต่างๆ ของเอเชีย โดยเฉพาะในประเทศเขตร้อน ซึ่งจะมีเฉพาะประเทศที่มีภูมิภาคคล้ายคลึงกับประเทศจีนเท่านั้นที่นำลิ้นจี่ไปปลูกต่อได้

สารอาหารที่มีใน ลิ้นจี่

ลิ้นจี่เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกายมากมาย เช่น

  • วิตามินซี: ลิ้นจี่มีวิตามินซีสูง ซึ่งช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ และช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็กจากอาหาร
  • วิตามินบี 6: มีบทบาทสำคัญในการสร้างสารสื่อประสาทและช่วยในการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย
  • แคลเซียมและโพแทสเซียม: ลิ้นจี่มีแคลเซียมและโพแทสเซียมที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน และช่วยในการควบคุมความดันโลหิต
  • ไฟเบอร์: ลิ้นจี่ยังมีใยอาหารสูง ซึ่งช่วยในระบบย่อยอาหารและป้องกันอาการท้องผูก

ประโยชน์ต่อสุขภาพ

  • เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน: ด้วยวิตามินซีที่สูง ลิ้นจี่สามารถช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและโรคหวัดได้
  • ช่วยในการย่อยอาหาร: ใยอาหารที่มีในลิ้นจี่ช่วยในการย่อยอาหารและป้องกันปัญหาท้องอืดท้องเฟ้อ
  • ป้องกันโรคหัวใจ: ลิ้นจี่มีโพแทสเซียมที่ช่วยในการควบคุมความดันโลหิต ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
  • ช่วยในการลดน้ำหนัก: ด้วยแคลอรี่ต่ำและใยอาหารสูง ลิ้นจี่สามารถเป็นส่วนหนึ่งของการควบคุมน้ำหนักได้ดี

นำไปทำอะไรได้บ้าง

นอกจากที่จะนำไปปอกินแบบสดๆแล้ว เรายังสามารถนำลิ้นจี่ไปทำอย่างอื่นได้อีกมากมายเช่น

ลิ้นจี่ในเมนูอาหาร

  • ของหวาน: ข้าวเหนียวมะม่วง, วุ้นลิ้นจี่, ไอศกรีมลิ้นจี่, พุดดิ้งลิ้นจี่, เค้กลิ้นจี่
  • เครื่องดื่ม: สมูทตี้ลิ้นจี่, น้ำปั่นลิ้นจี่, ค็อกเทลลิ้นจี่, ชาลิ้นจี่
  • อาหารคาว: สลัดลิ้นจี่, ยำลิ้นจี่, แกงกะหรี่ลิ้นจี่
  • อาหารว่าง: ลิ้นจี่ยัดไส้, ลิ้นจี่อบแห้ง, ลิ้นจี่เคลือบช็อกโกแลต

ลิ้นจี่ในอุตสาหกรรมอาหาร

  • ผลิตภัณฑ์แปรรูป: แยมลิ้นจี่, เยลลี่ลิ้นจี่, ไวน์ลิ้นจี่, น้ำผลไม้ลิ้นจี่
  • ส่วนผสมในอาหารสำเร็จรูป: โยเกิร์ต, ผลไม้กระป๋อง, ขนมอบต่างๆ
  • วัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร: อาหารเสริม, ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ

ลิ้นจี่ในอุตสาหกรรมอื่นๆ

  • เครื่องสำอาง: ครีมบำรุงผิว, สบู่
  • ผลิตภัณฑ์สุขภาพ: อาหารเสริม

สรุป

ลิ้นจี่ไม่ใช่แค่ผลไม้รสชาติหวานอร่อยจากประเทศจีนเท่านั้น แต่ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นวิตามินซีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน หรือใยอาหารที่ช่วยในการขับถ่าย นอกจากนี้ ลิ้นจี่ยังมีส่วนช่วยในการป้องกันโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ และยังมีส่วนช่วยในการควบคุมน้ำหนักอีกด้วย การรับประทานลิ้นจี่อย่างพอเหมาะจึงเป็นการดูแลสุขภาพที่ดีวิธีหนึ่ง

ผงน้ำลิ้นจี่ Smoosh

หรือหากคุณอยากดื่มน้ำลิ้นจี่รสชาติหวานหอมชื่นใจแบบสดใหม่ทุกวัน แต่ไม่มีเวลาคั้นเอง Smoosh มีทางออกให้คุณ! ด้วยผงชงน้ำลิ้นจี่คุณภาพดี ชงง่าย เพียงแค่ละลายในน้ำไม่ว่าจะเป็นน้ำอุ่นหรือน้ำเย็นก็จะได้น้ำลิ้นจี่รสชาติเข้มข้น หวานชื่นใจ หอมกลิ่นลิ้นจี่แท้ๆ เหมือนเพิ่งคั้นสดๆแล้ว แค่คลิกสั่งซื้อผ่าน LineFacebook หรือ Shopee แล้วรอรับน้ำลิ้นจี่หอมอร่อยถึงหน้าบ้านได้เลย