กระเจี๊ยบเขียว VS กระเจี๊ยบแดง: สุดยอดพืชอเนกประสงค์ที่คุณควรรู้จัก

กระเจี๊ยบเขียว VS กระเจี๊ยบแดง: สุดยอดพืชอเนกประสงค์ที่คุณควรรู้จัก

กระเจี๊ยบ เป็นพืชอีกชนิดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย เพราะสีสันสดใสและรสชาติที่โดดเด่น แต่ไม่ว่าจะเป็นกระเจี๊ยบแบบไหนต่างก็มีประโยชน์ที่แตกต่างกัน การทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างกระเจี๊ยบทั้งสองประเภทนี้จะช่วยให้คุณเลือกใช้ได้ตรงกับความต้องการ และในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงรายละเอียดของกระเจี๊ยบเขียวและกระเจี๊ยบแดง ตั้งแต่ลักษณะ รสชาติ ไปจนถึงคุณค่าทางโภชนาการและวิธีการนำไปปรุงอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีของคุณ

1. ลักษณะและรสชาติของ กระเจี๊ยบเขียว vs กระเจี๊ยบแดง

  • กระเจี๊ยบเขียว:
    ลักษณะ มีรูปร่างยาวรีคล้ายฝัก ถั่ว หรือมะเขือยาว ผิวเรียบสีเขียวอ่อน เนื้อด้านในนิ่มและมีเมือกค่อนข้างมาก เมล็ดของกระเจี๊ยบเขียวนั้นมีขนาดเล็ก
    รสชาติ มีรสชาติจืด หรือไม่ก็ออกหวานเล็กน้อย นิยมนำไปต้มทำแกงส้ม หรือใช้ทำอาหารประเภทผัด เนื่องจากมีเนื้อนิ่ม ช่วยให้แกงมีรสชาติกลมกล่อม
  • กระเจี๊ยบแดง:
    ลักษณะ มีรูปร่างกลมรี หรือยาวรีคล้ายกระเจี๊ยบเขียว แต่ขนาดจะเล็กกว่า ผิวเรียบ สีแดงสด เมล็ดของกระเจี๊ยบแดงนั้นมีขนาดเล็กเช่นเดียวกับกระเจี๊ยบเขียว
    รสชาติ มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน เนื้อสัมผัสกรอบ นิยมนำไปดอง ทำแยม ทำน้ำสมุนไพร หรือใช้เป็นส่วนผสมในอาหารหวานต่างๆ เนื่องจากมีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน

2. คุณค่าทางโภชนาการ

  • กระเจี๊ยบเขียว:
    ใยอาหารสูง ช่วยในระบบขับถ่าย ลดคอเลสเตอรอล และให้อิ่มนาน
    วิตามินซี เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด
    โฟเลต จำเป็นต่อการสร้างเม็ดเล็ดแดง และพัฒนาการของทารกในครรภ์
    วิตามินอี มีปริมาณปานกลาง ช่วยปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระ
  • กระเจี๊ยบแดง:
    วิตามินซี สูงมาก ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
    สารแอนโทไซยานิน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีสีแดงม่วง ช่วยปกป้องเซลล์ และมีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ
    วิตามินเอ ดีต่อสายตาและผิวพรรณ
    วิตามินอี มีปริมาณใกล้เคียงกับกระเจี๊ยบเขียว

3. ประโยชน์เพื่อสุขภาพ

  • กระเจี๊ยบเขียว: เป็นแหล่งไฟเบอร์ที่ดีช่วยให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเกี่ยวกับลำไส้ใหญ่ นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี เมือกของมันช่วยเคลือบกระเพาะอาหารได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องกระเพาะอาหาร
  • กระเจี๊ยบแดง: มีคุณสมบัติในการลดความดันโลหิตและคอเลสเตอรอล เนื่องจากสารแอนโธไซยานินที่มีในกระเจี๊ยบแดง ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงผิวพรรณ ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งและสดใส บำรุงสายตา ลดความดันโลหิตได้อีกด้วย

4. การนำ กระเจี๊ยบ มาปรุงอาหาร

  • กระเจี๊ยบเขียว: นำไปทำแกงส้ม ผัด ชุบแป้งทอดหรือทำเป็นเมนูอาหารจานหลัก
  • กระเจี๊ยบแดง: นิยมใช้ทำเป็นเครื่องดื่มน้ำสมุนไพร หรือแยม

สรุป

ผงน้ำกระเจี๊ยบแดง Smoosh

กระเจี๊ยบเขียวและกระเจี๊ยบแดงต่างมีคุณค่าทางโภชนาการและประโยชน์เพื่อสุขภาพที่แตกต่างกัน ผู้ที่ชื่นชอบรสเปรี้ยวสดชื่นควรเลือกกระเจี๊ยบเขียว ส่วนผู้ที่ต้องการสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยบำรุงผิวพรรณ ควรเลือกกระเจี๊ยบแดง ทั้งคู่เป็นทางเลือกที่ดีในการดูแลสุขภาพและเพิ่มความสดชื่นให้กับอาหารของคุณ!

หรือหากคุณอยากดื่มน้ำกระเจี๊ยบแดงสดชื่นแบบไม่ต้องยุ่งยาก Smoosh มีผงกระเจี๊ยบแดงคุณภาพดีให้คุณได้เลือกซื้อ เพียงชงกับน้ำเย็นก็ได้น้ำกระเจี๊ยบแดงรสชาติเข้มข้น หอมชื่นใจ แค่คลิกสั่งซื้อผ่าน LineFacebook หรือ Shopee แล้วรอรับน้ำกระเจี๊ยบแดงหอมอร่อยถึงหน้าบ้านได้เลย