คุณรู้หรือไม่ว่า โกโก้ นั้นเคยถูกชาวมายาโบราณยกย่องให้เป็นเครื่องดื่มของเหล่าเทพเจ้า? และถึงเวลาจะผ่านมายาวนาน ในปัจจุบันโกโก้ก็ยังคงเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลก แต่คุณรู้หรือไม่ว่าที่โกโก้ยังคงได้รับความนิยมอยู่นั้นไม่ใช่เพราะประโยชน์มากมายที่ซ่อนอยู่เท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะว่าเครื่องดื่มชนิดนี้มีเรื่องราวความเป็นมาที่น่าสนใจอีกด้วย ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปไขข้อข้องใจเกี่ยวกับโกโก้ ตั้งแต่ประวัติความเป็นมา สรรพคุณที่น่าทึ่ง ไปจนถึงคำถามที่หลายคนสงสัย เช่น กินโกโก้แล้วนอนไม่หลับจริงหรือ? หรือโกโก้มีคาเฟอีนมากน้อยแค่ไหน?
ประวัติความเป็นมาของ โกโก้
โกโก้มีต้นกำเนิดมาจากเมล็ดของต้นโกโก้ ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้หรือก็คือประเทศเม็กซิโกและประเทศในแถบอเมริกากลางในปัจจุบัน ในช่วงแรกเริ่มนั้น ชาวมายาและชาวแอซเท็กโบราณให้ความสำคัญกับเมล็ดโกโก้เป็นอย่างมาก พวกเขามักจะนำเมล็ดโกโก้มาบดและผสมกับเครื่องเทศต่างๆ เพื่อทำเป็นเครื่องดื่มที่มีรสขม ซึ่งพวกเขาจะถือว่าเครื่องดื่มชนิดนี้เป็นเครื่องดื่มศักดิ์สิทธิ์สำหรับชนชั้นสูงและนิยมใช้ในพิธีกรรมทางศาสนา
นอกจากนั้นก็ยังมีหลักฐานบางอย่างบ่งชี้เอาไว้ว่า ชาวมายานั้นใช้เมล็ดโกโก้เป็นสกุลเงินในการแลกเปลี่ยนอีกด้วย
โกโก้ กับ ช็อกโกแลต: ต่างกันยังไง?
หลายคนมักจะสับสนระหว่างโกโก้กับช็อกโกแลต เพราะทั้งสองมีส่วนผสมหลักมาจากเมล็ดโกโก้เหมือนกัน แต่แท้จริงแล้วทั้งสองมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน
โกโก้ (Cocoa)
คืออะไร: ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการนำเมล็ดโกโก้มาบดและคั่วจนได้เป็นผงละเอียด
รสชาติ: มีรสขมและฝาด
ส่วนประกอบหลัก: เมล็ดโกโก้บด
การนำไปใช้: ทำเป็นเครื่องดื่มโดยการผสมกับน้ำร้อน นม หรือส่วนผสมอื่นๆ, เป็นส่วนผสมหลักในการทำขนมอบ เช่น เค้ก คุกกี้, ใช้เป็นส่วนผสมในอาหารประเภทอื่นๆ เช่น ไอศกรีม ซอส
ช็อกโกแลต (Chocolate)
คืออะไร: ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการนำโกโก้บัตเตอร์ (ไขมันที่สกัดจากเมล็ดโกโก้) มาผสมกับโกโก้ผง น้ำตาล และส่วนผสมอื่นๆ เช่น นม ผงนม
รสชาติ: มีรสหวาน มัน และขม (ขึ้นอยู่กับชนิดของช็อกโกแลต)
ส่วนประกอบหลัก: โกโก้บัตเตอร์, โกโก้ผง, น้ำตาล
การนำไปใช้: กินเป็นของหวาน, ใช้เป็นส่วนผสมในการทำขนมอบ, ใช้ในการทำเครื่องดื่ม เช่น ช็อกโกแลตร้อน
สรรพคุณของโกโก้
- สารต้านอนุมูลอิสระ: โกโก้อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหาย ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด
- บำรุงสมอง: โกโก้มีสารฟลาโวนอยด์ ซึ่งมีส่วนช่วยในการเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงสมอง ช่วยปรับปรุงความจำและการเรียนรู้
- ลดความดันโลหิต: สารฟลาโวนอยด์ในโกโก้ยังช่วยผ่อนคลายหลอดเลือด ทำให้ความดันโลหิตลดลง
- เพิ่มพลังงาน: โกโก้มีสารคาเฟอีนในปริมาณน้อย ซึ่งช่วยกระตุ้นระบบประสาทและให้พลังงาน
- อารมณ์ดี: โกโก้ช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเอ็นโดรฟิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุข ช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น
คำถามที่พบบ่อย
1. กินโกโก้ทำให้นอนไม่หลับจริงไหม?
คำตอบ: โกโก้มีคาเฟอีน แต่ปริมาณน้อยกว่ากาแฟมาก การดื่มโกโก้ในปริมาณที่พอเหมาะจึงไม่น่าจะส่งผลต่อการนอนหลับ แต่หากดื่มโกโก้ก่อนนอนในปริมาณมาก อาจทำให้หลับยากขึ้นได้
2. โกโก้มีคาเฟอีนไหม?
คำตอบ: โกโก้มีสารคาเฟอีน แต่ปริมาณน้อยกว่ากาแฟมาก โดยทั่วไปแล้ว ช็อกโกแลตดำจะมีปริมาณคาเฟอีนสูงกว่าโกโก้ผง
3. โกโก้มีประโยชน์และโทษอย่างไร?
ประโยชน์: ดังที่กล่าวมาในหัวข้อก่อนหน้านี้ โกโก้มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง บำรุงสมอง ลดความดันโลหิต และเพิ่มพลังงาน
โทษ:
- น้ำตาลสูง: โกโก้หลายชนิดมีการเติมน้ำตาลในปริมาณมาก การบริโภคในปริมาณมากอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น โรคอ้วนและเบาหวาน
- ไขมัน: โกโก้บัตเตอร์มีไขมันสูง การบริโภคในปริมาณมากอาจส่งผลต่อระดับคอเลสเตอรอล
- สารก่อภูมิแพ้: บางคนอาจแพ้โปรตีนในโกโก้
4. โกโก้ดื่มก่อนนอนได้ไหม
คำตอบ: หากดื่มโกโก้ในปริมาณที่เหมาะสม คุณก็สามารถดื่มโกโก้ก่อนนอนได้ เพราะเหตุผลดัง
ช่วยให้ผ่อนคลาย
โกโก้มีสารฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) ซึ่งช่วยลดความเครียดและทำให้รู้สึกผ่อนคลาย นอกจากนี้ยังมี สารเซโรโทนิน (Serotonin) และ ทริปโตเฟน (Tryptophan) ที่ช่วยปรับอารมณ์และช่วยให้การนอนหลับเป็นไปอย่างสบาย
เพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ
โกโก้เป็นแหล่งที่ดีของสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ ลดการอักเสบในร่างกาย และส่งเสริมสุขภาพผิว
บรรเทาอาการหิว
ถ้ารู้สึกหิวเล็กน้อยก่อนนอน การดื่มโกโก้อุ่นๆ ช่วยบรรเทาความหิวได้ ทำให้นอนหลับสบายขึ้น โดยไม่ต้องหิวจนต้องตื่นมากินอาหารกลางดึก
ให้พลังงานที่ไม่สูงมาก
หากเป็นโกโก้ที่ไม่หวานเกินไป การดื่มโกโก้ช่วยเติมพลังเล็กน้อยก่อนนอน โดยไม่ทำให้ได้รับแคลอรี่มากเกินไป
5. โกโก้ดื่มก่อนนอนได้ไหม
คำตอบ: โดยทั่วไปแล้ว การดื่มโกโก้ 1-2 แก้วต่อวัน ถือว่าเป็นปริมาณที่เหมาะสม แต่ถ้าหากคุณเลือกดื่มโกโก้ที่มีส่วนผสมของน้ำตาลและไขมันสูง ก็ควรลดปริมาณลง หรือเลือกดื่มโกโก้ที่มีปริมาณน้ำตาลต่ำแทน
สรุป
โกโก้เป็นเครื่องดื่มที่มีทั้งประโยชน์และโทษ การบริโภคโกโก้ในปริมาณที่พอเหมาะและเลือกชนิดที่ไม่มีน้ำตาลหรือไขมันสูง จะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากโกโก้
หาคุณอยากดื่มโกโก้ แต่ไม่รู้ว่าจะไปซื้อของร้านไหนมาใช้เราก็ต้องขอแนะนำผงชงเครื่องดื่มของ Smoosh! ที่มีมากกว่า 20 รสชาติซึ่งคุณสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าของเราได้ผ่าน Line: @Smoosh1 และเพจ Facebook: https://www.facebook.com/omixjuice